8/30/2554

ระเด่นลันได - โดย พระมหามนตรี (ทรัพย์)


ระเด่นลันได
โดย พระมหามนตรี (ทรัพย์)
  • หน้า 10 - 11: บทชมนาง
  • บทละครเรื่อง ละเด่นลันได นั้นมีลักษณะพิเศษตรงที่ การสร้างตัวละครและสำนวนโวหารต่างๆนั้นถูกแต่งขึ้นเพื่อล้อเลียนวรรณกรรมชั้นสูงอย่าง อิเหนา ซึ่งเป็นวรรณคดีบทละครเรื่องเอกของไทย
  • ในอิเหนา นั้นตัวละครจะมาจากพวกราชวงศ์ ดังนั้นท่วงทำนองการแต่งและฉากต่างๆก็จะไพเราะหรูหราตามฐานะของตัวละคร ดังนั้นพระมหามนตรี จึงได้ล้อเลียนอิเหนาโดยกำหนดตัวละครและฉากต่างๆให้ตรงกันข้าม เป็นเนื้อเรื่องง่ายๆเกี่ยวกับแขกขอทานที่ไปเป็นชู้กับภรรยาของแขกอีกคนที่เป็นคนเลี้ยงวัว
  • ตัวละคร
    • ระเด่นลันได - ขอทานยากจน มีอาชีพสีซอหากินไปวันๆ แต่ก็มีอารมณ์ศิลปิน “เป็นคนเจ้าชู้ มีเสน่ห์เพราะปากหวาน...ฉลาด รู้วิธีพูดให้คนเห็นใจ”
      • “ระเด่น” เป็นคำภาษาชวา แปลว่าเจ้าชาย หรือเจ้าหญิง ซึ่งความขัดแย้งจากการนำคำสำนวนสูงมาใช้กับตัวละครที่มีฐานะต่ำต้อยนั้น เป็นการสร้างการล้อเลียนและแดกดัน
    • นางประแดะ - “ใจอ่อนขี้สงสาร”
    • ท้าวประดู่ - สามีนางประแดะ “ขี้หึง โทโสร้าย ใจแข็งเด็ดเดี่ยว และรักศักดิ์ศรี”
 ๏ เมื่อนั้น         พระสุวรรณลันไดเรืองศรี
เหลียวพบสบเนตรนางตานี ภูมีพิศพักตร์ลักขณา 
ฯ  ๒ คำ ฯ
  • “เมื่อนั้น” เป็นการกล่าวถึงตัวละครหลัก ซึ่งก็คือระเด่นลันได
  • การเรียกระเด่นลันไดอย่างหรูหราว่า “พระสุวรรณลันไดเรืองศรี” และ “ภูมี” ซึ่งแปลว่าพระราชานั้นเป็นการสร้างความขัดแย้งกับสถานะที่แท้จริงของเขา ที่แท้จริงแล้วมีอาชีพต่ำต้อยเพียงแค่ขอทาน
  • “ลักขณา” นั้นเป็นคำที่ใช้เรียกแทนหญิงสาวหรือน้องสาว เป็นการสร้างจินตภาพถึงหญิงสาวที่ดูสวยสง่างาม ขัดกับความเป็นจริงของนางประแดะที่ดูบรรยายถึงในบทต่อไป...
    ชมโฉม
๏ สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า
พิศแต่หัวจรดเท้าขาวแต่ตา ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ         ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม มันน่าเชยน่าชมนางเทวี 
              ฯ ๖ คำ ฯ
  • บท ชมโฉม นั้นเป็นจังหวะดนตรีปี่พาทย์ที่กล่าวชมผู้หญิงและความสวยความงาม แต่ในที่นี้กวีได้สร้างความเสียดสีโดยบรรยายหน้าตาของนางประแดะให้ดูขบขัน เช่นการใช้โวหารกล่าวเปรียบเทียบว่านาง “งามละม้ายคล้ายอูฐ”...
    • การ “พิศ” คือการเพ่งพิจารณา
    • ลูกยอ คือผลไม้ลูกแดงๆ
    • กงเขา ในที่นี้หมายถึงกงเขาของแพะที่โค้งงอ
    • พร้าขอ นั้นหมายถึงมีดพร้า ที่มีลักษณะโค้งงอเช่นเดียวกัน
    • “สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม” - การใช้อุปมาเปรียบเทียบ “เต้า” กับวัตถุทั่วๆไปอย่าง ตะเคียว และ บวบต้มนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงถึงความฉลาดเฉลียวของกวีในการสร้างบทกลอนที่เสียดสีขบขัน แต่ยังแฝงไว้ด้วยความคล้องจองและความสละสลวยของภาษา 
 ๏ร่าย นี่จะเป็นลูกสาวท้าวพระยา ฤๅว่าเป็นพระมเหสี
อกใจทึกทักรักเต็มที ก็ทรงสีซอสุวรรณขึ้นทันใด 
               ฯ ๒ คำ ฯ
    • พระมเหสี คือภรรยาของพระราชา
    • การใช้คำราชาศัพทํว่าระเด่นลันไดกำลัง ‘ทรงสีซอสุวรรณ’ นั้นเป็นการสร้างจินตภาพให้ดูหรูหราสร้างการแดกดันให้ขัดกับความจริงที่ว่าละเด่นลันไดนั้นเป็นเพียงคนสีซอขอทาน
     ๏พัดชา ยักย้ายร่ายร้องเป็นลำนำ มีอยู่สองสามคำจำไว้ได้
สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร ถูกแล้วกลับไปได้เท่านั้น 
                  ฯ ๒ คำ ฯ
    • สุวรรณหงษ์ แปลว่า ผู้สูงส่ง เป็นการเรียกแทนระเด่นลันไดอีกเช่นกัน - ซึ่งตามสำนวนนั้นเขา “ถูกหอก” แห่งความรักปักเข้าให้
    • “ถูกแล้วกลับไปได้เท่านั้น” - แสดงความต้องการอยากได้ของระเด่นลันได
     ๏ร่าย แล้วซ้ำสีอีิกกระดิกนิ้ว ทำยักคิ้วแลบลิ้นเล่นขบขัน
เห็นโฉมยงหัวร่ออยู่งองัน         พระทรงธรรม์ทำหนักชักเฉื่อยไป 
         ฯ ๒ คำ ฯ มโหรี
    • วงมโหรีนั้นเป็นการผสมกันระหว่างวงปี่พาทย์และวงเครื่องสาย เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่อลังการ
    • กลอนบทนี้มีนำเสียงที่สนุกสนานร่าเริง แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอันหวานแหววระหว่างที่ตัวละครทั้งสองกำลังเกี้ยวพาราศีกัน
     ๏ เมื่อนั้น         นางประแดะตานีศรีใส
สดับเสียงสีซอพอฤทัย         ให้วาบวับจับใจผูกพัน
ยิ่งคิดพิศวงพระทรงศักดิ์         ลืมรักท้าวประดู่ผู้ผัวขวัญ
ทำไฉนจะได้พระทรงธรรม์ มาเคียงพักตร์สักวันด้วยรักแรง
คิดพลางทางเข้าไปในห้อง แล้วตักเอาข้าวกล้องมาสองแล่ง
ค่อยประจงลงใส่กระบะแดง กับปลาสลิดแห้งห้าหกตัว
แล้วลงจากบันไดมิได้ช้า         เข้ามานอบนบจบเหนือหัว
เอาปลาใส่ย่ามด้วยความกลัว         แล้วยอบตัวลงบังคมก้มพักตรา 
            ฯ ๘ คำ ฯ
    • ในบทนี้นางประแดะได้หลงในตัวระเด่นลันได และตัดสินใจหนีไปกับเขา
    • พระทรงศักดิ์ และ พระทรงธรรม์ - ใช้เรียกแทนระเด่นลันได
    • ตรงกันข้ามกับราชาศัพท์ที่ใช้อยู่นั้น ‘ทรัพย์สมบัติ’ ที่นางประแดะเอาติดตัวไปด้วยนั้นมีเพียงข้าวกล้องกับ “ปลาสลิดแห้งห้าหกตัว”
     ๏ เมื่อนั้น ลันไดให้แสนเสน่หา
อะรามรักยักคิ้วหลิ่วตา พูดจาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน 
       ฯ ๒ คำ ฯ
    • โดยรวมแล้ว พระมหามนตรี ได้สร้างตัวละครและสำนวนเพื่อล้อเลียนวรรณคดีชั้นสูงอย่างอิเหนา ผ่านการสร้างความขัดแย้ง (juxtaposition) ระหว่าง รูปร่าง ฐานะ อาชีพ กิริยาและการกระทำของตัวละครที่เป็นเพียงขอทานกับคำราชาศัพท์ ทำให้บทละครเรื่อง ระเด่นลันได “เป็นบทประพันธ์ที่เป็นเลิศและดีเด่นทั้งสำนวนกร กระบวนความ การแทรกบทตลกไว้่อย่างแยบยล”

2 ความคิดเห็น:

  1. กงเขาไม่น่าจะหมายถึงเขาของแพะ
    แต่หมายถึง กงล้อของเครื่องปั่นฝ้าย
    ในกวีเรียก
    กงเขาดีดฝ้าย หมายถึง กงล้อที่เขาเอาไว้ปั้นฝ้าย
    ให้เห็นความน่าขันที่โดนทั่วไปจะเปรัยบว่าคิ้วโก่งดังคันศร แต่นี่คงโก่งเกินเป็นครึ่งวงกลม

    ตอบลบ
  2. New Slot Machine Game at Slotia Casino | JCM Hub
    The game takes players on a journey through 의왕 출장안마 a world of 보령 출장안마 slots machines. The game is titled “The Slotia Casino” 영주 출장마사지 and 화성 출장안마 features a variety of unique 부산광역 출장샵

    ตอบลบ